โดย ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ MD, FRCOG (T)
WOMAN says YES
Y = Younger skin ผิวอ่อนเยาว์
E = Emotional balance อารมณ์เบิกบาน
S = Soothing menopause วัยทองสดใส
ผู้หญิงทุกคนต่างใฝ่ฝันจะมีสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัยของชีวิต สิ่งสำคัญคือ การเตรียมตัวเข้าสู่วัยต่างๆ จะช่วยให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น แต่ละช่วงวัยผู้หญิงต้องเผชิญกับสภาวะต่างๆ ในร่างกายที่แตกต่างกันไปมากกว่าผู้ชาย ปัจจัยสำคัญก็คือการมีรอบเดือน การตั้งครรภ์และคลอดบุตรนั่นเองที่ทำให้ร่างกายของผู้หญิงมีความซับซ้อนมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจึงต้องการการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ การเสริมสารอาหารที่จะช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายเป็นทางเลือกหนึ่ง เช่น น้ำมันอีฟนิงพริมโรส น้ำมันโบราจ ตังกุย ขิง ไบโอฟลาโวนอยด์ และเบต้า-แคโรทีน
จากวัยเด็กสู่วัยเจริญพันธุ์
ในช่วงที่ผู้หญิงมีรอบเดือนนั้น ปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงจะไม่สมดุลอยู่ตลอดเวลา ผลที่เกิดขึ้นคือทำให้เกิดกลุ่มอาการก่อนมีรอบเดือนที่เรียกว่า PMS (Premenstrual Syndrome) ซึ่งทำให้ผู้หญิงจำนวนมากทนทุกข์ทรมานกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง การทำงานมีประสิทธิภาพต่ำ กระทบกับสัมพันธภาพกับคนใกล้ชิด
กลุ่มอาการ PMS ได้แก่
- ปวดศีรษะอย่างแรง หรือปวดท้องน้อย
- อาหารไม่ย่อย
- อารมณ์แปรปรวน เครียดโดยไม่มีเหตุผล
- บางคนอาจซึมเศร้าจนอยากทำร้ายตนเอง หรือมีอาการดุร้ายที่อยากทำร้ายคนรอบข้าง
- หมดเรี่ยวแรง
- ร้อนหนาวมากกว่าปกติ นอนไม่หลับ
ย่างเข้าสู่วัยทอง
วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือนในผู้หญิงจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 45 ปีขึ้นไป โดยเฉลี่ยอายุ 50 ปี เมื่อถึงวัยนี้ รังไข่จะหยุดทำงานและไม่มีการตกไข่อีกต่อไป ทำให้ไม่มีประจำเดือนและไม่มีการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจากรังไข่ ส่งผลให้เกิดอาการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจต่างๆ ตามมา
อาการของวัยทอง
- ประจำเดือนมาน้อยลงและไม่สม่ำเสมอ
- ร้อนวูบวาบตามร่างกาย
- เหนื่อยง่าย
- ใจสั่น มีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน
- ผิวหนังบางลง ผิวแห้ง เกิดแผลได้ง่าย มีอาการคันหรือเป็นผื่นแพ้ตามผิวหนัง
- ผิวคล้ำหมอง ผิวไม่ยืดหยุ่น มีริ้วรอยง่าย เพราะปริมาณคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง
- เส้นผมหยาบแห้งและบางลง หลุดร่วงง่าย ไม่ดกดำเป็นเงางาม
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือปวดตามข้อและกระดูก
- มีอาการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เร็ว เครียดง่าย หงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ โกรธง่าย ใจน้อย ควบคุมอารมณ์ได้ยาก บางคนหลงลืมง่าย เวียนศีรษะ ซึมเศร้า
- นอนหลับยากหรือนอนไม่หลับ
- ช่องคลอดขาดความชุ่มชื้น น้ำหล่อลื่นน้อยลง เกิดความเจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์
- ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้
- กระดูกบางและเปราะง่าย เวลาหกล้มกระดูกจะหักได้ง่ายขึ้น
6 สารอาหารจำเป็น เพื่อ WOMAN says YES
1. น้ำมันอีฟนิงพริมโรส หรืออีพีโอ
เป็นน้ำมันที่สกัดมาจากเมล็ดดอกอีฟนิงพริมโรส มีสารสำคัญคือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงในกลุ่มโอเมก้า-6 ที่ชื่อว่า แกมมาไลโนเลนิกแอซิด ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นหรือกึ่งจำเป็นชนิดหนึ่งซึ่งร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง และไม่พบในพืชทั่วไป
น้ำมันอีฟนิงพริมโรสช่วยบรรเทาอาการก่อนมีรอบเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกินวันละ 1,000 มิลลิกรัม สามารถแบ่งเป็นครั้งละ 500 มิลลิกรัม เช้า-เย็นหลังอาหาร หรือจะกินครั้งเดียว 1,000 มิลลิกรัมหลังอาหารตอนเช้าก็ได้ เพื่อให้ได้ผลดีในการลดอาการก่อนมีรอบเดือน ต้องกินอย่างน้อย 10 วันก่อนที่จะมีรอบเดือน และกินติดต่อกันไปจนเลือดประจำเดือนหยุด อย่างไรก็ตาม ขนาดของน้ำมันอีฟนิงพริมโรสที่ใช้ในผู้หญิงแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามน้ำหนักตัวและการดูดซึมที่ต่างกันไปในแต่ละคน ซึ่งสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม
นอกจากน้ำมันอีฟนิงพริมโรสแล้ว เกลือแร่และวิตามิน เช่น ไบโอฟลาโวนอยด์ น้ำมันโบราจ ขิง เบต้า-แคโรทีน และสารจำพวกไฟโตเอสโตรเจน เช่น ตังกุย ก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ของน้ำมันอีฟนิงพริมโรสได้
น้ำมันอีฟนิงพริมโรสช่วยลดอาการวัยทอง
“วัยทอง” เริ่มตั้งแต่ประมาณ 5 ปีก่อนที่รอบเดือนจะหยุดและกว่าอาการต่างๆ จะดีขึ้นก็หลังจากรอบเดือนหยุดไปแล้วประมาณ 5 ปี อาการที่เกิดขึ้นคล้ายกับอาการก่อนมีรอบเดือนของผู้หญิง แต่แทนที่จะเกิดเดือนละครั้งในช่วงเวลาใกล้รอบเดือน อาการวัยทองสามารถเกิดได้ทุกวัน อาจเกิดวันละหลายครั้งต่างเวลา ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง และเกิดปัญหาด้านอารมณ์และจิตใจ น้ำมันอีฟนิงพริมโรสจึงมีส่วนช่วยลดอาการในวัยทองอันเกิดขึ้นจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิงด้วยกลไกการออกฤทธิ์เช่นเดียวกับการลดอาการก่อนมีรอบเดือน เพียงแต่การใช้น้ำมันอีฟนิงพริมโรสเพื่อลดอาการของวัยทองนั้นจะต้องรับประทานต่อเนื่องทุกวันในขนาดเดียวกันกับการใช้เพื่อระงับอาการก่อนมีรอบเดือน
คุณประโยชน์ของน้ำมันอีฟนิงพริมโรส
- ลดอาการปวดท้องและอาการปวดเต้านมในช่วงมีรอบเดือน
- ลดอาการก่อนมีรอบเดือน
- บรรเทาอาการอักเสบและปวดข้อ
- ลดโคเลสเตอรอลในเลือด
- บรรเทาอาการผิวหนังแห้งคันและอักเสบ
- ลดอาการวัยทอง
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง
- ช่วยเคลือบเส้นผมให้เงางาม ไม่แห้ง เปราะและแตกปลาย
- ลดอาการเล็บแตกเปราะและหักง่าย
2. น้ำมันโบราจ
น้ำมันโบราจสกัดมาจากเมล็ดโบราจ เป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวในกลุ่มของโอเมก้า-6 ที่ชื่อว่า แกมมาไลโนเลนิกแอซิด ที่จำเป็นสำหรับมนุษย์เพราะร่างกายของมนุษย์เราไม่สามารถสร้างเองได้
คุณประโยชน์ของน้ำมันโบราจ
- ช่วยลดอาการต่างๆ ก่อนมีรอบเดือนและอาการวัยทอง
- ลดอาการผิวแห้ง ระคายเคือง
- ลดปัญหาผิวหนังอักเสบ
- ลดปัญหาเล็บเปราะ
3. ตังกุย
สารที่สกัดได้จากตังกุยเรียกว่า “ไฟโตเอสโตรเจน” ซึ่งเป็นฮอร์โมนจากพืช มีโครงสร้างเหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนธรรมชาติ จึงนิยมนำมาบำรุงสุขภาพสตรี นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอ วิตามินบี 12 กรดอะมิโน 17 ชนิด และเกลือแร่มากกว่า 20 ชนิด ทำให้ช่วยการไหลเวียนของเลือดและเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงที่มีผลต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวหนังเต่งตึง ยืดหยุ่นได้ดี
คุณประโยชน์ของตังกุย
- ช่วยให้รอบเดือนมาปกติ ลดอาการก่อนมีรอบเดือน และลดอาการปวดประจำเดือน
- ลดอาการวัยทอง
- ช่วยการไหลเวียนของเลือดและเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงที่มีผลต่อสุขภาพผิว
- ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง ยืดหยุ่นได้ดี
4. ขิง
อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่มีความสำคัญมากต่อระบบของร่างกาย ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 วิตามินซี เบต้า-แคโรทีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส นอกจากนี้ยังมีโปรตีนและเส้นใยต่างๆ จึงจัดได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายจำนวนมาก
คุณประโยชน์ของขิง
- ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
- ลดอาการปวดศีรษะไมเกรน
- ช่วยลดอาการก่อนมีรอบเดือนและอาการวัยทอง
- ช่วยผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับสบาย
- ช่วยเจริญอาหาร และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
- ช่วยเสริมการออกฤทธิ์ของน้ำมันอีฟนิงพริมโรสและน้ำมันโบราจ
5. ไบโอฟลาโวนอยด์
ไบโอฟลาโวนอยด์เป็นสารประกอบของวิตามินซีที่อยู่ในรูปของสารธรรมชาติ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง พบมากในกากใยสีขาวของผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย เช่น ส้ม มะนาว เกรปฟรุ้ต เชอร์รี่ แบล็คเบอร์รี เป็นต้น
คุณประโยชน์ของไบโอฟลาโวนอยด์
- ช่วยการดูดซึมและเสริมฤทธิ์วิตามินซี
- ช่วยรักษาอาการเปราะและแตกง่ายของเส้นเลือด
- เพิ่มความยืดหยุ่นของผนังเส้นเลือด
- ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน
6. เบต้า-แคโรทีน
เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายรวมทั้งส่งเสริมสุขภาพโดยทั่วไป นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีจึงมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ พบมากในสารอาหารที่ได้จากผักและผลไม้ที่มีสีส้ม เหลือง และแดง เช่น แครอท ฟักทอง แตงโม แคนตาลูป มะละกอสุก ข้าวโพด เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบในผักสีเขียวเช่น บร็อคโคลี มะระ ผักบุ้ง ผักตำลึง และคะน้า
คุณประโยชน์ของเบต้า-แคโรทีน
- ช่วยให้ผิวหนังมีสุขภาพดี
- ลดริ้วรอยความเหี่ยวย่น
- ช่วยในการมองเห็นในที่มืดได้ดี
- ลดความเสื่อมของกระจกตารวมทั้งเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ ของลูกตา