|
เทรนด์การลดน้ำหนักด้วยวิธี Water Fasting เป็นการดื่มน้ำอย่างเดียว โดยไม่กินอาหารเลย ตามเวลาที่กำหนด ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย หรือช่วยลดน้ำหนักได้จริง?
Water Fasting คืออะไร
Water Fasting คือ การอดอาหาร โดยจะใช้วิธีการดื่มน้ำเพียงอย่างเดียวตลอดระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหาร โดยทั่วไปมักจะกำหนดการทำ Water Fasting ไว้ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งการทำ Water Fasting เป็นวิธีการปฏิบัติมาตั้งแต่อดีต มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป บางกลุ่มทำเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงศาสนา แต่บางกลุ่มทำเพื่อสุขภาพ ซึ่ง Water Fasting กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน1 ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลดความอ้วนแบบไม่ออกกำลังกาย
วิธีลดน้ำหนัก Water Fasting ทำอย่างไร
เพื่อไขข้อสงสัยว่า Water Fasting ทำอย่างไร? ในหัวข้อนี้จึงได้สรุปวิธีการดื่มน้ำลดน้ำหนัก โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
การเตรียมตัวก่อนทำ Water Fasting
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะทำ Water Fasting ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อน ในช่วง 2-3 วันก่อนทำ ในช่วงของการเตรียมร่างกาย ควรกินอาหารสำหรับลดความอ้วน และควรลดปริมาณการกิน พร้อมงดอาหารจำพวกอาหารแปรรูป เนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ค่อยๆ ปรับไปสู่อาหารที่ทำจากพืช อาหารเบาๆ ที่ย่อยง่าย3
การทำ Water Fasting
ในช่วงการทำ Water Fasting ควรเลือกช่วงเวลาที่ร่างกายไม่ได้ทำกิจกรรมหนักๆ และสามารถพักผ่อนได้เป็นเวลานาน ส่วนมากระยะเวลาของการทำ Water Fasting จะอยู่ที่ 24-72 ชั่วโมง หรือ 1-3 วัน โดยดื่มน้ำสะอาดตลอดทั้งวัน ให้ได้ปริมาณ 1-3 ลิตร ส่วนช่วงเวลาการดื่มน้ำที่เหมาะสมนั้น สามารถอ้างอิงได้ตามตารางการดื่มน้ำลดความอ้วน ทั้งนี้ควรดื่มเฉพาะน้ำสะอาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หลีกเลี่ยงชา กาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ2
การดูแลตัวเองหลังทำ Water Fasting
หลังทำ Water Fasting ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญเช่นกัน เพราะร่างกายและลำไส้ไม่ได้รับอาหารมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะยังไม่สามารถกินอาหารปกติได้ ช่วงแรกต้องเริ่มจากอาหารปริมาณน้อย อาหารเบา ไม่ว่าจะเป็นน้ำผัก และผลไม้ แล้วจึงค่อยๆ ปรับเป็นอาหารย่อยง่าย ไปสู่การกินอาหารปกติตามลำดับ3
การทำ Water Fasting ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?
ได้มีการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ระบุว่าการทำ Water Fasting จะช่วยกระตุ้นสภาวะของ Nutritional Ketosis ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายหยุดเผาผลาญกลูโคส (คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลอื่นๆ) แต่จะเปลี่ยนไปเผาผลาญไขมันแทน ดังนั้น ผลที่ได้จึงเป็นการลดน้ำหนักนั่นเอง2นอกจากนั้นการดื่มน้ำสะอาดยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้ เมื่อจุลินทรีย์ในลำไส้มีความสมดุล จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และยังมีส่วนในการลดน้ำหนักอีกด้วย การดื่มน้ำจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีลดความอ้วนที่เป็นที่นิยม
ประโยชน์ของการทำ Water Fasting
การทำ Water Fasting มีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆ ไม่เพียงนอกจากจะเป็นวิธีการลดน้ำหนัก เช่น2
- ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบหัวใจ เพราะการอดอาหารเป็นครั้งคราวจะช่วยลดภาวะ Oxidative Stress และกระตุ้นการเกิด Nutritional Ketosis เป็นส่วนช่วยระบบการทำงานของหัวใจ รวมไปถึงการลดภาวะความดันโลหิตด้วย
- ช่วยกระตุ้น Autophagy ซึ่งเป็นกลไกการกินตัวเองของเซลล์ โดยเซลล์จะสลายตัวและฟื้นฟูตัวเองขึ้นใหม่ จากการศึกษาที่เกี่ยวข้อง พบว่าการอดอาหารจะช่วยกระตุ้น Autophagy ได้ดี
ข้อควรระวังของการทำ Water Fasting
การทำ Water Fasting เป็นวิธีการดื่มน้ําลดน้ําหนักที่จะต้องมีความระมัดระวังในบางเรื่อง ดังนี้4
- การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ควรเลือกช่วงเวลาที่ร่างกายต้องใช้พลังงานมาก ควรเป็นช่วงที่ร่างกายไม่ต้องทำกิจกรรมอะไรมากนัก หรือมีความเครียด
- ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพ และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ Water Fasting
- ควรระมัดระวังการดื่มน้ำ เลือกดื่มแต่น้ำเปล่า ไม่ดื่มน้ำชนิดอื่นๆ ระหว่างทำ Water Fasting
- การดื่มน้ำควรดื่มน้ำสะอาด มีแร่ธาตุเหมาะสม เพราะร่างกายสามารถนำแร่ธาตุจากน้ำไปใช้ได้ ในช่วงทำ Water Fasting
- ระหว่างทำ Water Fasting ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้ร่างกายหนัก
การทำ Water Fasting เหมาะกับใคร
การทำ Water Fasting เป็นวิธีการที่อาจมีความเสี่ยงในคนบางกลุ่มได้ การทำ Water Fasting เหมาะหรือไม่เหมาะกับใครบ้าง สามารถสรุปได้ ดังนี้2
- Water Fasting เหมาะกับผู้มีสุขภาพร่างกายปกติ และไม่มีความผิดปกติตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
- ไม่เหมาะกับผู้เป็นโรคเบาหวาน เพราะการอดอาหารจะเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง เพราะการอดอาหารจะส่งผลต่อการทำงานของไตที่แย่ลง
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาทางด้านการกินผิดปกติ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะกรดไหลย้อน
- ไม่เหมาะกับคนกลุ่มอายุ ต่ำกว่า 18 ปี และกลุ่มอายุมากกว่า 65
- ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
ผลข้างเคียงของการทำ Water Fasting2
การทำ Water Fasting อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างต่อร่างกายได้ ควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องก่อน เช่น
- อาจมีผลต่อให้เกิดภาวะความดันต่ำเฉียบพลันได้ ส่งผลให้เกิดอาการมึนงงขณะลุกขึ้นได้
- อาจทำให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ เนื่องจากดื่มน้ำมากเกินไป
สรุป
การทำ Water Fasting เป็นวิธีหนึ่งในการลดน้ำหนัก โดยการงดอาหาร และดื่มน้ำเพียงอย่างเดียวในระยะเวลาต่อเนื่อง 24-72 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมัน ส่งผลต่อการลดน้ำหนัก และยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายๆด้าน
อย่างไรก็ตาม การทำ Water Fasting ควรจะต้องศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน และเช็กร่างกายว่าพร้อมหรือไม่ เพราะการทำ Water Fasting จะไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะผิดปกติบางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคไตอักเสบ โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น ทั้งนี้ การทำ Water Fasting ที่ให้เกิดผลดีต่อร่างกาย ควรเลือกดื่มน้ำที่มีแร่ธาตุครบถ้วน สะอาด ไม่มีสารปนเปื้อน ซึ่ง eSpring สามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ ด้วยเทคโนโลยีการกรองน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรองคาร์บอน e3 และนวัตกรรม UV-C LED ที่จะช่วยกรองสิ่งสกปรก สารปนเปื้อนต่างๆ ในน้ำ ทำให้ได้น้ำดื่มที่มีคุณภาพ ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้สิ่งปนเปื้อน และยังมีแร่ธาตุครบ ให้ eSpring เป็นตัวช่วยสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงของทุกคนในครอบครัว