เรามักจะได้ยินคำว่า โยโย่ เอฟเฟกต์ (YOYO effect) บ่อยๆในปัจจุบัน ซึ่งหมายถึง ภาวะที่ระบบต่างๆ ในร่างกายขาดความสมดุลอันเนื่องมาจากการลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี ซึ่งแม้ว่าจะทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น แต่ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน คล้ายคลึงกับการเหวี่ยงลูกโยโย่ลงพื้น ยิ่งโยนลงแรงมากเท่าไร ลูกโยโย่ก็จะเด้งกลับคืนมาแรงเท่านั้น จึงเป็นที่มาของคำว่า โยโย่ เอฟเฟกต์ นั่นเอง

วิธีลดน้ำหนักส่วนเกินโดยไม่ทำให้น้ำหนักกลับไปเพิ่มขึ้นอีกนั้น มีหลากหลายวิธีซึ่งประกอบไปด้วยหลายปัจจัย ทั้งเรื่องทัศนคติที่มีต่อความคิดที่จะเปลี่ยนแปลง  การออกกำลังกายเพื่อขจัดไขมันส่วนเกิน รวมไปถึงพฤติกรรมการกินซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลย  แล้วแบบนี้เราจะมีวิธีการกินอย่างไรไม่ให้โยโย่? ลองไปดูกันครับ

eat-no-yoyo-1.jpg

1. ค่อยๆ ปรับการกินอาหารประเภทแป้ง

การหยุดกินอาหารประเภทแป้งเพื่อลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จริงอยู่ที่ว่าการกินอาหารประเภทแป้งที่มากเกินไปส่งผลให้อ้วนได้ แต่การงดกินเลยจะส่งผลให้เกิดภาวะโยโย่ได้เช่นกัน เพราะการงดแป้งในทันทีจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารอย่างกระทันหันและขาดสมดุล ดังนั้น วิธีที่เหมาะสมคือค่อยๆ ลดและปรับเปลี่ยนอาหารประเภทแป้งลงทีละน้อยๆ เช่น จำกัดปริมาณข้าวให้เหลือเพียง 3 ใน 4 ส่วนของอาหารประเภทแป้งที่ได้รับในแต่ละมื้อ หรือดื่มกาแฟที่ใส่น้ำตาลให้น้อยลงกว่าปกติ กินข้าวกล้องแทนข้าวขาว เป็นต้น ถึงแม้การลดแป้งจะไม่สามารถควบคุมน้ำหนักได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือการบริโภคแต่คาร์โบไฮเดรตที่ดีในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

คาร์โบไฮเดรตที่ดีหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คือ คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ผ่านกรรมวิธีหรือการขัดสี อาทิ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ธัญพืชต่างๆ ผลิตภัณฑ์โฮลวีท  เผือก มันเทศ  ถั่วบางชนิด  ฟักทอง  กล้วย เป็นต้น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะทำให้รู้สึกอยู่ท้องและอิ่มท้องนานกว่า ไม่ทำให้รู้สึกหิวเร็ว และยังช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ถือเป็นการควบคุมน้ำหนักไปในตัว อีกทั้งยังได้รับสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริงอีกด้วย

eat-no-yoyo-2.jpg

2. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่

การกินอาหารครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ร่างกายมีสารอาหารอย่างเพียงพอในกระบวนการสันดาป หลายคนอาจมีความเชื่อผิดๆ ว่า การกินอาหารที่มีไขมันจะทำให้อ้วนและลดน้ำหนักได้ช้า แต่ในความเป็นจริงแล้วเราควรลดการกินอาหารที่มีไขมันชนิดเลวที่มากเกินไป งดไขมันทรานส์ และเน้นเลือกกินอาหารที่เพิ่มไขมันดีให้ร่างกายต่างหาก เช่น ไม่กินอาหารทอดที่ใช้น้ำมันคุณภาพต่ำ หรืออาหารฟาสต์ฟูด (Fast food) แต่ไม่ได้หมายความว่าให้หยุดการกินอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบไปเลย เนื่องจากสารอาหารประเภทไขมันมีความจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้การทำงานของร่างกายเป็นไปได้อย่างเป็นปกติ

การกินอาหารมีความสำคัญไม่น้อยกับการลดน้ำหนัก และช่วยป้องกันการเกิดภาวะ โยโย่ เอฟเฟกต์ ได้ ด้วยการกินอาหารให้ครบทุกหมู่ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้ดังใจ และยังให้เรามีสุขภาพที่ดีด้วย

shop now