ส่อง 10 ประโยชน์ของน้ำมันโบราจ เพื่อผู้หญิงจากภายในสู่ภายนอก!

น้ำมันโบราจให้กรดไขมันแกมมาไลโนเลนิก ที่มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย เช่น บำรุงสุขภาพผิว ลดอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน ต้านการอักเสบ และช่วยควบคุมน้ำหนักได้

ทำความรู้จัก น้ำมันโบราจ คืออะไร

น้ำมันโบราจ คือ น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดโบราจ น้ำมันโบราจถูกใช้ในการรักษาร่างกายมาตั้งแต่สมัยโบราณ ช่วยในเรื่องการบรรเทาอาการอักเสบของโรคต่างๆ โดยเฉพาะอาการที่เกี่ยวกับผิวหนัง เช่น ช่วยลดอาการแผลลมพิษ หรืออาการอักเสบอื่นๆ ที่เกิดบนผิวหนังด้วย

น้ำมันโบราจนั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันแกมมาไลโนเลนิก เป็นกรดไขมันโอเมกา-6 ประเภทหนึ่ง ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องอาศัยการรับจากแหล่งภายนอก เป็นสารสกัดที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในผู้หญิง เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน เช่น ช่วยบำรุงผิว ช่วยบำรุงเส้นผม ช่วยควบคุมน้ำหนักไปจนถึงช่วยลดอาการ PMS

สารสำคัญในน้ำมันโบราจ มีอะไรบ้าง

น้ำมันโบราจประกอบไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน กรดไขมันโอเมกา-6 ถึง 2 ประเภท ได้แก่ กรดไขมันแกมมาไลโนเลนิก (Gamma-Linolenic Acid: GLA) และ กรดลิโนเลนิก (Linolenic Acid: LA) (กรดลิโนเลนิกเป็นกรดที่ร่างกายจะเปลี่ยนให้กลายเป็นกรดไขมันแกมมาไลโนเลนิก) สำหรับ GLA นั้น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ที่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยในเรื่องการควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและยังยั้งอาการอักเสบ

ประโยชน์จากน้ำมันโบราจ มีดีกว่าที่คุณคิด

น้ำมันโบราจมีสารสำคัญ คือ กรดไขมันแกมมาไลโนเลนิก ที่เป็นสารที่มีประโยชน์หลายประการต่อร่างกาย น้ำมันโบราจมีสรรพคุณมากมายที่มักจะถูกนำมาใช้เพื่อการรักษาร่างกาย โดยเฉพาะอาการที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ ประโยชน์ 10 ข้อ จากน้ำมันโบราจ ที่ส่งผลดีต่อร่างกาย มีดังนี้

1. ช่วยลดอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน

น้ำมันสกัดจากเมล็ดโบราจให้กรดไขมันแกมมาไลโนเลนิกในปริมาณสูงถึง 24-25% ที่มีคุณสมบัติในการต้านอาการอักเสบ จึงเป็นสิ่งที่ช่วยลดอาการที่เกี่ยวกับการผิดปกติก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิง เช่น อาการเจ็บเต้านม อาการร้อนวูบวาบ อาการเหงื่อออกมากผิดปกติตอนกลางคืน และอารมณ์แปรปรวน เป็นต้น²

2. ช่วยบำรุงสุขภาพผิว

น้ำมันโบราจมีส่วนประกอบสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ กรดไขมันแกมมาไลโนเลนิก ที่เป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างผิวให้มีสุขภาพดี เนื่องจากน้ำมันโบราจมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น ช่วยลดอาการผิวแห้ง ลอก คัน และเป็นขุย ซึ่งได้มีงานศึกษาถึงประโยชน์ของน้ำมันโบราจ พบว่าช่วยบรรเทาอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โดยเฉพาะรอยแดงและอาการคันได้¹

3. ช่วยลดอาการภูมิแพ้

น้ำมันโบราจช่วยเสริมสร้างการทำงานของปอด น้ำมันโบราจจะช่วยลดอาการอักเสบและบวมในทางเดินหายใจ จึงมักใช้ในการรักษาอาการที่เกี่ยวกับภูมิแพ้ เช่น อาการไอ ไข้หวัดต่างๆ รวมไปถึงโรคหอบหืดด้วย จากการศึกษาวิจัย ให้กลุ่มผู้เข้าทดลองรับประทานน้ำมันโบราจแบบแคปซูล เป็นเวลา 12 สัปดาห์ โดยรับประทานร่วมกับวัตถุดิบอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันตับปลา วิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ พบว่ากลุ่มผู้เข้าทดลองมีอาการอักเสบ และอาการหอบหืดลดลง¹

4. ช่วยต้านอาการอักเสบ

ได้มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าน้ำมันโบราจมีสรรพคุณต่อต้านการอักเสบ โดยได้มีการทดลองในสัตว์พบว่าน้ำมันโบราจช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์จากการออกซิเดชัน อันเป็นสาเหตุที่นำไปสู่อาการอักเสบ นอกจากนั้นจากการสังเกตการณ์กลุ่มผู้รับประทานอาหารเสริมน้ำมันโบราจ เห็นได้ว่าอาการที่เกี่ยวกับการอักเสบอย่างโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ลดลง (ทั้งที่รับประทานร่วมกับน้ำมันตับปลาและไม่ได้รับประทานร่วม)¹

5. มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก

กรดไขมันแกมมาไลโนเลนิกที่มีในน้ำมันโบราจ มีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถคงโปรตีนไว้ และดูดซึมคาร์โบไฮเดรตช้าลง และยังช่วยในการลำเลียงวิตามินชนิดละลายได้ในไขมันไปยังกระแสเลือดด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากกรดไขมันไลโนเลนิก ถือเป็นไขมันดีชนิดหนึ่ง ทำให้ร่างกายไม่อยากอาหารในปริมาณที่มากเกินไป และยังช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกายด้วย²

6. ช่วยบำรุงการทำงานของปอด

น้ำมันโบราจช่วยบำรุงการทำงานของปอด รวมไปถึงในผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ และภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ทั้งนี้ การรับประทานน้ำมันโบราจจะช่วยทำให้อาการที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจบรรเทาได้เร็วขึ้น³

7. มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโต

มีข้อมูลระบุว่าเด็กทารกหรือเด็กที่คลอดก่อนกำหนดที่ได้รับน้ำมันโบราจ จะมีพัฒนาการการเติบโตที่ดีขึ้น อีกทั้งโอเมก้า-6 ที่อยู่ในน้ำมันโบราจยังช่วยพัฒนาระบบประสาทส่วนกลางและลดความเสี่ยงของภาวะคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย³

8. ช่วยต้านโอกาสเกิดเซลล์มะเร็ง

น้ำมันโบราจ มีสรรพคุณในเรื่องของการต้านการกลายพันธุ์ และการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง น้ำมันโบราจจะช่วยในเรื่องของการปกป้อง DNA และยังลดการเสียหายของเซลล์ จึงมักใช้น้ำมันโบราจเป็นส่วนหนึ่งในการต้านโอกาสเกิดเซลล์มะเร็ง

9. ช่วยบำรุงเส้นผม

น้ำมันโบราจมักถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการต่อมขนอักเสบ หรือปุ่มรากผมอักเสบ (Folliculitis) เป็นอาการที่อักเสบของรูขุมขน นำไปสู่ภาวะผมร่วงและปัญหาเส้นผมอื่นๆ จึงมักใช้น้ำมันโบราจนวดที่บริเวณหนังศีรษะเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ นอกจากนั้นโอเมกา-6 ในน้ำมันโบราจยังช่วยให้เส้นผมแข็งแรงอีกด้วย²

10. ช่วยลดอาการเมาค้าง

น้ำมันโบราจ เป็นส่วนประกอบหลักที่สำคัญชนิดหนึ่งของอาหารเสริมที่ใช้สำหรับรักษาอาการเมาค้าง จากการศึกษาทดลอง พบว่า เมื่อกินน้ำมันโบราจร่วมกับวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดทั้งก่อนและหลังการดื่มแอลกอฮอล์ กลุ่มตัวอย่าง 88% มีอาการเมาค้างลดลง⁴

กินน้ำมันโบราจอย่างไร ให้ได้ประโยชน์

ปริมาณการกินน้ำมันโบราจนั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบุคคล ในบุคคลทั่วไป แนะนำ 500 - 3,000 มิลลิกรัม โดยแบ่งรับประทาน 1-2 ครั้งต่อวัน โดยเริ่มจากปริมาณน้อยก่อน แต่หากต้องการใช้เพื่อบรรเทาอาการบางอย่างให้เพิ่มปริมาณเป็น 1,000 - 6,000 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจรับประทาน²

ข้อควรระวังที่ควรรู้ หากจะกินน้ำมันโบราจ

ก่อนตัดสินใจรับประทานน้ำมันโบราจ ควรทำความเข้าใจถึงข้อควรระวัง อาการข้างเคียง ดังนี้²

• กรณีที่รับประทานน้ำมันโบราจในปริมาณที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น อุจจาระอ่อน ท้องเสีย อาการเรอ ท้องอืด ปวดหัว ผื่นลมพิษ เป็นต้น
• ผู้ตั้งครรภ์ ไม่ควรรับประทานน้ำมันโบราจ เพราะจะทำให้เกิดอาการกระตุ้นการเจ็บครรภ์ จากการทำให้เกิดลิ่มเลือดได้ง่าย

สรุป

น้ำมันโบราจ คือ น้ำมันที่สกัดมาจากเมล็ดโบราจ ประกอบไปด้วยกรดไขมันแกมมาไลโนเลนิกถึง 24-25% ที่มีสรรพคุณเด่นในเรื่องการรักษาอาการอักเสบ จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการผิดปกติของร่างกายได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน บำรุงสุขภาพผิว ส่งเสริมการทำงานของปอด ต้านการอักเสบ ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้น