โหระพามีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และการติดเชื้อ อีกทั้งยังมีสรรพคุณต่อสุขภาพตับ สุขภาพหัวใจ ช่วยต้านมะเร็ง ลดน้ำตาลในเลือด และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยอีกด้วย
โหระพา คืออะไร?
โหระพา (Basil) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ocimum basilicum เป็นสมุนไพรวงศ์เดียวกับมินต์และกะเพรา เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียและแอฟริกา โหระพายังถูกใช้เพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติในวัฒนธรรมอาหารของหลายๆ ประเทศ และเป็นที่นิยมใช้รักษาโรคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
9 สรรพคุณของโหระพา
โหระพามีสรรพคุณที่ช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานมีสุขภาพที่ดีขึ้น สารในใบโหระพาประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสรรพคุณที่โดดเด่นของใบโหระพา มีดังนี้
1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
โหระพาประกอบไปด้วยสารที่สำคัญ เช่น ฟลาโวนอยด์ แคโรทีน ฟีนอลิก ยูเกนอล และลิโมนี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ2 นอกจากนี้กรดโรสมารินิก ยังมีฤทธิ์ป้องกันความเสียหายจากการทำลายของอนุมูลอิสระต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจอีกด้วย13
ผสานคุณค่า วิตามิน
เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์
2. ช่วยลดการอักเสบ
สารยูเกนอล ลินาลูล และซิโตรเนลลอล ที่อยู่ในใบโหระพา3 มีคุณสมบัติผลิตไซโตไคน์ในระบบภูมิคุ้มกันในการต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใบโหระพาจึงถูกใช้ลดอาการอักเสบอย่างแพร่หลายในประเทศจีน
3. ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
สารในน้ำมันใบโหระพาอย่าง ลิโมนีน ลินาลูล ไพนีน ซีนีโอล ไมร์ซีน เฟนโชน และโอซิมีน มีส่วนช่วยในการต้านการติดเชื้อต่างๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อที่ผิวหนัง โรคปอดบวมต่างๆ รวมทั้งโรคติดต่อที่เป็นพาหะ เช่น ไข้เลือดออก มาลาเรีย และโรคเท้าช้าง12
4. ช่วยบำรุงสุขภาพตับ
โหระพา ผลิตเอนไซม์ที่ช่วยล้างพิษและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ทำให้ไขมันสะสมที่มีอยู่ในตับลดน้อยลง8 ช่วยบำรุงให้ตับมีสุขภาพดี แถมยังป้องกันการเกิดโรคไขมันพอกตับได้
5. ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็ง
โหระพา ช่วยเสริมการทำงานของเอนไซม์ต่อต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการปกป้องร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากสารพิษ โดยการลดความเสียหายของ DNA และกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็งในร่างกาย1
ผสานคุณค่า วิตามิน
เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์
6. ช่วยลดเลือนริ้วรอย
ริ้วรอยบนใบหน้าและร่างกายเกิดจากอนุมูลอิสระ สารฟีนอล และฟาโวนอยด์ที่มีอยู่ในโหระพาจะมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดโอกาสเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มคอลลาเจน ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ผิวเต่งตึง ริ้วรอยที่มีก็ลดเลือนหายไปได้อีกด้วย9
7. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
สารสกัดเอธานอลในโหระพา ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ทำให้การใช้โหระพากันอย่างแพร่หลายทางการแพทย์เพื่อลดน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน10
8. ช่วยบำรุงหลอดเลือดในหัวใจ
น้ำมันสกัดจากโหระพามียูจีนอลที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระมีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด11 ส่งผลให้ค่าซิสโตลิก ไดแอสโตลิก และค่าเฉลี่ยความดันโลหิตลดลง ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือดได้
9. ช่วยบรรเทาสุขภาพจิต
การรับประทานใบโหระพาที่มีสารอาหารอย่างลูทีน ซีแซนทีน เบต้าแคโรทีน และเบต้า-คริปโตแซนทิน จะช่วยลดความเครียด1 ต้านอาการซึมเศร้า และช่วยบำรุงความจำ การทำงานของระบบสมอง และลดปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับได้3,5
ใช้โหระพาอย่างไร ให้ได้ประโยชน์
ใบของโหระพาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ดังนี้
อาหารเสริมที่มีโหระพา
แม้ว่าโหระพาสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต แต่การบริโภคจากมื้ออาหารอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จึงมีการนำโหระพามาสกัดแคปซูลในรูปแบบอาหารเสริมจากธรรมชาติ ประกอบไปด้วยแคลเซียม วิตามินเอ วิตามินเค แมงกานีส แมกนีเซียมเหล็ก สังกะสี รวมทั้งโพแทสเซียม3
เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากโหระพาสกัดอย่างครบถ้วน ควรบริโภคอย่างน้อย 2 ช้อนโต๊ะหรือ 5 กรัมต่อวัน ซึ่งปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ควรอ่านฉลากและปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
ผสานคุณค่า วิตามิน
เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์
น้ำมันหอมระเหย
น้ำมันหอมระเหยโหระพาเป็นที่รู้จักในเรื่องของการเสริมสร้างความกระปรี้กระเปร่า เพิ่มพลังจากอาการเหนื่อยล้า และบรรเทาอาการทางจิตใจ สามารถนำมาใช้บรรเทาอาการปวดหัว อาการปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ ไขข้อต่างๆ แถมยังช่วยบรรเทาอาการไม่สบายทางเดินหายใจ และระบบย่อยอาหารได้อีกด้วย ในด้านความงามน้ำมันหอมระเหยโหระพาขึ้นชื่อในการบำรุง ซ่อมแซม ปรับสมดุลผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใส ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและเส้นผมได้4
นำโหระพามาปรุงอาหาร
ใบโหระพาเป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้เพิ่มรสชาติและสีสันให้กับมื้ออาหาร จึงเป็นที่รู้จักทั้งในเมนูเมดิเตอร์เรเนียนหลายชนิด และโดยเฉพาะอาหารอิตาเลียน และอาหารอื่นๆ ในแถบเอเชีย เช่น อาหารอินโดนีเซีย ไทย และเวียดนามก็มีสมุนไพรชนิดนี้มาปรุงอาหารเช่นกัน5 โดยปริมาณที่แพทย์แนะนำให้บริโภคต่อวันอยู่ที่ 1 ช้อนโต๊ะ3
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังในการใช้โหระพา
โหระพาอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับคนบางกลุ่ม เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตร เพราะสารเอสตราโกลที่พบในโหระพาอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งตับได้ นอกจากนี้ผู้ที่มีบาดแผลหรือเลือดออกมากกว่าปกติ ควรงดการรับประทานสารสกัดและน้ำมันโหระพาเนื่องจากมีวิตามินเคสูงที่จะออกฤทธิ์ชะลอการแข็งตัวของเลือด รวมทั้งผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรงดรับประทานโหระพาทั้งรูปแบบสดและอาหารเสริมใน 2 สัปดาห์แรก เพื่อลดโอกาสเสียเลือดระหว่างการผ่าตัด และในผู้ที่มีความดันต่ำควรให้แพทย์ประเมินก่อนนำมาบริโภค เนื่องจากโหระพามีฤทธิ์ที่ช่วยลดความดันโลหิต
ผสานคุณค่า วิตามิน
เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์
สรุป
โหระพาเป็นสมุนไพรประกอบไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งในด้านป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ ต้านอนุมูลอิสระ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และอีกมากมาย สารประกอบในใบโหระพาส่งผลประโยชน์ด้านความงามในการบำรุงผิวและเส้นผม แม้ว่าโหระพาเป็นพืชที่ไม่มีอันตรายต่อร่างกายในการนำมารับประทานและปรุงอาหาร อย่างไรก็ตาม ร่างกายและโรคประจำตัวแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนนำมาบริโภค เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง